การประชุมว่าด้วยหลักปรัชญาของจูซีและการเสวนาระหว่างอารยธรรมโลก (Conference on Zhu Xi's Doctrine and Global Civilizations Dialogue) หรือที่รู้จักกันในชื่อ การประชุมเข่าถิง ครั้งที่ 4 (4th Kaoting Forum) ซึ่งร่วมกันจัดโดยสถาบันบัณฑิตสังคมศาสตร์จีน (Chinese Academy of Social Sciences) สหพันธ์ขงจื๊อนานาชาติ (International Confucian Association) และรัฐบาลประชาชนมณฑลฝูเจี้ยน มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 ตุลาคม ณ เมืองหนานผิง มณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "สืบสานคุณค่าร่วมสมัยของวัฒนธรรมจูซี ส่งเสริมการเรียนรู้และการเติบโตร่วมกันของอารยธรรมโลก" โดยภายในงานประกอบด้วยการประชุมย่อยแบบคู่ขนาน 4 เวที และการอภิปรายโต๊ะกลม 1 รายการ โดยนักวิชาการด้านจีนวิทยาชื่อดัง ผู้เชี่ยวชาญด้านหลักปรัชญาของจูซีจากต่างประเทศ และตัวแทนจากสถาบันพันธมิตรในกว่า 50 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก จะเข้าร่วมงานและกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมครั้งนี้
"ขงจื๊อรุ่งเรืองในสมัยราชวงศ์โจวตะวันออก จูซีเจิดจรัสในสมัยราชวงศ์ซ่งใต้" จูซีได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นนักปรัชญาคนสำคัญของลัทธิขงจื๊อ หลังจากที่ขงจื๊อได้วางรากฐานเอาไว้อย่างมั่นคง โดยปรัชญาของจูซีได้หล่อหลอมอารยธรรมจีนอย่างลึกซึ้งและยาวนานตลอดหลายศตวรรษ ในสมัยราชวงศ์ซ่งและราชวงศ์หมิง แนวคิดของจูซีได้แพร่ขยายไปยังเกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม และนานาประเทศทั่วโลก ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมสำคัญระหว่างอารยธรรมจีนกับอารยธรรมโลก หนึ่งในแนวคิดหลักของจูซีคือ "หลี่อี้เฟินซู" (Li Yi Fen Shu) หรือ ความเป็นหนึ่งเดียวของหลักการกับความหลากหลายของการแสดงออก ซึ่งมีคุณูปการอย่างยิ่งต่อการส่งเสริมการเสวนาระหว่างอารยธรรมต่าง ๆ ทั่วโลก ขณะเดียวกัน หลักการ "ประชาชนคือรากฐานของรัฐ" ก็สะท้อนค่านิยมที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อสนับสนุนข้อริเริ่มการพัฒนาโลก (Global Development Initiative) ที่จีนนำเสนอในเวทีนานาชาติ
ในปี พ.ศ. 2560 หลังจากเมืองหนานผิงได้รับอำนาจในการออกกฎหมายท้องถิ่นได้ไม่นานนัก ทางเมืองก็ได้ประกาศใช้กฎระเบียบท้องถิ่นที่สำคัญฉบับแรก นั่นคือ กฎระเบียบของเทศบาลเมืองหนานผิงว่าด้วยการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมจูซี นับเป็นการวางรากฐานทางกฎหมายที่มั่นคงเพื่อการอนุรักษ์และสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมจูซีอย่างเป็นระบบ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีความคืบหน้าในการสืบสานวัฒนธรรมจูซีอย่างต่อเนื่อง โดยมณฑลฝูเจี้ยนได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเข่าถิงสามครั้ง ขณะเดียวกัน เมืองหนานผิงได้ลงนามข้อตกลงกรอบความร่วมมือระยะยาวกับสถาบันปรัชญา ภายใต้สังกัดสถาบันบัณฑิตสังคมศาสตร์จีน นอกจากนี้ สหพันธ์ขงจื๊อนานาชาติได้จับมือกับศูนย์ศึกษาปรัชญาขงจื๊อโลกหนีซาน (Nishan World Center for Confucian Studies) จัดตั้งศูนย์วิจัยและฝึกอบรมในเมืองหนานผิง ขณะที่มูลนิธิขงจื๊อแห่งประเทศจีน (China Confucius Foundation) ได้จัดตั้งกองทุนพิเศษเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมจูซีอันทรงคุณค่านี้
ในระดับท้องถิ่นนั้น มีการตีพิมพ์เอกสารวิชาการเกี่ยวกับการศึกษาวัฒนธรรมจูซีมากกว่า 60 ฉบับ พร้อมทั้งเผยแพร่บทความทางวิชาการกว่า 230 ฉบับ และมีการอนุมัติโครงการวิจัย 29 โครงการภายใต้กองทุนสังคมศาสตร์แห่งชาติ นอกจากนี้ ภายหลังความพยายามอย่างต่อเนื่องนานหลายปี ในที่สุด เขตอนุรักษ์นิเวศวิทยาวัฒนธรรมจูซี (Zhu Xi Cultural Ecology Reserve) ระดับมณฑล ก็ได้รับการอนุมัติให้จัดตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการในเมืองหนานผิงเมื่อปลายปี พ.ศ. 2566
เพื่อเป็นการสืบสานและพัฒนาวัฒนธรรมจูซี มณฑลฝูเจี้ยนได้ดำเนินการเชิงรุกด้วยการขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้กว่า 100 รายการ ตลอดจนเผยแพร่สารคดีเรื่อง "Zhu Xi: The Great Confucian" และละครเวทีหลายเรื่อง อาทิ "Moonlight Over Wuyi" โดยคลิปวิดีโอที่เกี่ยวข้องมียอดรับชมรวมกันมากกว่า 350 ล้านครั้ง นอกจากนี้ มณฑลฝูเจี้ยนได้เป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมสำคัญ 5 รายการ ซึ่งรวมถึงการประชุมวิชาการข้ามช่องแคบ (Cross-Strait Academy Forum), กิจกรรมย้อนรอยจูซี (Retracing Zhu Xi's Footsteps), การประชุมจีนวิทยาระดับโลก (World Conference on Sinology) ที่ดึงดูดผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการกว่า 500 คน จากกว่า 70 ประเทศและภูมิภาค และกิจกรรมทัศนศึกษา "เส้นทางจูซี" (Zhu Xi's Path) ที่จัดต่อเนื่องมาแล้ว 18 ครั้ง โดยมีนักวิชาการ ลูกหลานของจูซี คณาจารย์ และนักเรียนนักศึกษาจากเกือบ 30 ประเทศเข้าร่วมเกือบ 30,000 คน
ที่มา: คณะกรรมการจัดการประชุมว่าด้วยหลักปรัชญาของจูซีและการเสวนาระหว่างอารยธรรมโลก