จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายอายุ 55 ปี และมีผู้สำลักควันและบาดเจ็บระหว่างอพยพหนีไฟรวม 14 ราย เจ้าหน้าที่อาสาสมัครได้นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ได้แก่ โรงพยาบาลเจ้าพระยา โรงพยาบาลธนบุรี 1 โรงพยาบาลวชิรพยาบาล โรงพยาบาลกลาง และโรงพยาบาลศิริราช ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามอาการและให้การช่วยเหลือตามสิทธิ์ ทั้งนี้ กทม. จะให้การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบตามระเบียบว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ประสบสาธารณภัย (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2568 ประกอบด้วย ค่าจัดการศพ ค่ารักษาพยาบาล เงินปลอบขวัญ ค่าดำรงชีพเบื้องต้น ค่าเช่าที่พักอาศัยชั่วคราว หรือค่าค่าเช่าบ้าน และค่าวัสดุสมทบ หรือซ่อมแซมบ้านเรือนที่อยู่อาศัยประจำ
นอกจากนี้ กทม. ได้ขอความร่วมมือนิติบุคคลอาคารสูงและอาคารชุดในพื้นที่กรุงเทพฯ เพิ่มความเข้มงวดการตรวจสอบระบบป้องกันอัคคีภัยของอาคารให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะตรวจสอบความพร้อมของระบบแจ้งเตือน ระบบป้องกันอัคคีภัยภายในอาคาร อุปกรณ์ดับเพลิง ประตูทางออก ป้ายบอกทาง ทางหนีไฟ และระบบไฟฟ้าสำรองฉุกเฉิน เพื่อป้องกันเหตุซ้ำรอยที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต พร้อมขอให้ผู้พักอาศัยในอาคารสูงตระหนักถึงวิธีปฏิบัติเมื่อเกิดเพลิงไหม้ โดยขอให้ตั้งสติ ไม่ตื่นตระหนก หากเป็นเพลิงไหม้เล็กน้อยให้ใช้ถังดับเพลิงควบคุมเพลิงในเบื้องต้น ตะโกน หรือกดสัญญาณเตือนเพลิงไหม้ เพื่อแจ้งผู้อื่นให้อพยพออกจากพื้นที่เกิดเหตุโดยเร็ว และโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง หลีกเลี่ยงการหนีเข้าไปในห้องน้ำ หรือขึ้นดาดฟ้าอาคาร เพราะไฟจะลุกลามจากชั้นล่างขึ้นชั้นบน เสี่ยงต่อการได้รับอันตราย ยกเว้นกรณีที่ไม่สามารถอพยพหนีไฟลงสู่ชั้นล่างได้และติดอยู่ในอาคารให้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่พร้อมระบุตำแหน่ง หรือส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ เช่น โบกผ้า ใช้ไฟฉาย เป่านกหวีด ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุเพลิงไหม้ หรือสาธารณภัยอื่น ๆ ได้ที่สายด่วน 199 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายนภพล มนต์มนัสสิทธิ ผู้อำนวยการเขตบางกอกน้อย กทม. กล่าวว่า สำนักงานเขตฯ ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ณ ที่เกิดเหตุ พร้อมสนับสนุนการดับเพลิงร่วมกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสถานีดับเพลิงและกู้ภัย (สดพ.) บางขุนนนท์ และประสานรถสุขาเคลื่อนที่ของ กทม. เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ได้รับผลกระทบ ภายหลังเพลิงสงบเจ้าหน้าที่ได้เข้าสำรวจความเสียหาย พบว่ามีห้องชุดได้รับผลกระทบทั้งหมด 4 ห้อง และมีน้ำจากการดับเพลิงไหลนองทั่วพื้นที่ เกรงว่าอาจเกิดไฟฟ้ารั่ว จึงได้สั่งงดการใช้อาคารเอและบีชั่วคราว เพื่อให้วิศวกรตรวจสอบโครงสร้างและระบบไฟฟ้าภายในอาคารอย่างละเอียด ในเบื้องต้นนิติบุคคลคอนโดมิเนียม ได้จัดหาที่พักชั่วคราวให้ผู้ได้รับผลกระทบเข้าพักที่โรงแรม R.D. Hotel เขตบางกอกน้อย และโรงแรมรัตนโกสินทร์ เขตพระนคร
ทั้งนี้ สำนักงานเขตฯ ร่วมกับ สดพ.บางขุนนนท์ และกองปฏิบัติการดับเพลิงและกู้ภัย 5 สปภ. เข้าตรวจสอบอาคารทั้งสองหลังอีกครั้ง เมื่อวันที่ 10 ต.ค.68 เพื่อประเมินระบบความปลอดภัยและความพร้อมของอุปกรณ์ป้องกันอัคคีภัย พร้อมสั่งงดใช้อาคารจนกว่าจะดำเนินการซ่อมแซมและผ่านการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ โดยเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 68 สำนักงานเขตฯ ร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย เข้าตรวจสอบห้องต้นเพลิงและห้องข้างเคียงที่ได้รับความเสียหาย รวม 5 ห้อง ซึ่งสามารถให้การช่วยเหลือตามกฎหมายได้ โดยสำนักงานเขตฯ ได้กำชับให้นิติบุคคลคอนโดมิเนียมรวบรวมรายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต เพื่อออกหนังสือรับรองผู้ประสบสาธารณภัยบุคคลธรรมดาตามระเบียบของ กทม. ทั้งนี้ การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจะดำเนินการตามข้อบัญญัติ กทม. ว่าด้วยการสงเคราะห์ผู้ประสบสาธารณภัย (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2564 ซึ่งครอบคลุมการช่วยเหลือด้านที่พักพิง การเยียวยาผู้บาดเจ็บ การจ่ายค่าชดเชยความเสียหายต่อทรัพย์สิน และการให้การสนับสนุนในด้านจิตใจแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้