คุณหมอหนุ่ม - อาจารย์นายแพทย์ รัสมิ์ภูมิ สุเมธีวิทย์ Board of Dermatology & Medical Director แพทย์ความงามผู้เชี่ยวชาญศาสตร์ด้านชะลอวัยที่มีประสบการณ์มากว่าสิบปี เผยว่า เซลล์ที่ไม่ตาย หรือ เซลล์ซอมบี้ (Zombie cells) ถ้าสะสมอยู่ในร่างกายมากๆ จะทำให้ร่างกายเข้าสู่ภาวะชราภาพ ซึ่งสาเหตุของการเกิดเซลล์ซอมบี้คือ ความผิดปกติบางอย่าง ความเครียด การติดเชื้อหรือเซลล์บางส่วนโดนทำลายจนกลายเป็นเซลล์ซอมบี้ ที่นอกจากจะไม่ทำประโยชน์ใดๆ ให้ร่างกายแล้ว ยังปล่อยสารเคมีบางอย่างออกมาเพื่อทำลายเซลล์ปกติ ส่งผลให้ร่างกายเริ่มแก่ตัว และมีโรคต่างๆ ตามมา
วิธีรับมือกับเซลล์ซอมบี้ คือต้องปรับสมดุลร่างกาย ด้วยการกินดี ลดการกินพวกเนื้อสัตว์ น้ำตาล อาหารไหม้เกรียม เพื่อลดการอักเสบของร่างกาย ดื่มน้ำ กินผักใบเขียว ลดความเป็นกรด เสริมความเป็นด่างให้ร่างกายเป็นการปรับสมดุลค่า PH เพิ่มฮอร์โมนแห่งความสุข ด้วยการออกกำลังกาย นั่งสมาธิ พักผ่อน นอนหลับให้เพียงพอ ก็จะทำให้ร่างกายนั้นแข็งแรง กระฉับกระเฉงขึ้น
แต่หากอยากจะฟื้นฟูผิวพรรณให้ดูอ่อนกว่าวัยและดูสดใสแบบเร่งด่วน ที่ รัสมิ์ภูมิคลินิก คลินิกให้บริการความงามมาตรฐานโรงพยาบาล ภายใต้คอนเซ็ปต์การดูแลความงามเฉพาะรายบุคคล (Personalized Care) ด้วยเทคนิคและวิทยาการทางการแพทย์เทคโนโลยีที่ทันสมัย (Disruptive Technology) ระดับพรีเมี่ยม เขามีหลากหลายแพ็คกเก็จ ให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์การชะลอวัย อีกทั้งยังมีความแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ทั่วไป เนื่องจากเป็นโปรแกรมที่มีการคิดค้น พัฒนา และปรับปรุงอย่างพิเศษเฉพาะที่รัสมิ์ภูมิคลินิก โดย 2 โปรแกรมที่อยากแนะนำคือ
โปรแกรม Hybrid NAD+ (Nicotinamide Adenine Dinucleotide) การชะลอวัยลึกถึงระดับเซลล์ เป็นนวัตกรรมล่าสุดของศาสตร์แห่งการชะลอวัย โดย NAD+ เป็นโคเอนไซม์ที่ร่างกายผลิตเองได้จากอนุพันธ์ของวิตามินบี 3 มีความสำคัญในขบวนการฟื้นฟูเซลล์ในระดับดีเอ็นเอ สามารถพบได้ในเซลล์ที่ช่วยส่งเสริมการงอกใหม่ของเซลล์และเป็นวัตถุดิบสำคัญในการสร้างพลังงานของเซลล์ จึงช่วยชะลอความเสื่อมและโรคที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกาย ถึงแม้ว่าร่างกายเราจะผลิตวิตามินบี 3 เองได้ แต่มันจะค่อยๆ ลดลงตามอายุ
ซึ่งข้อดีของการเติมระดับ NAD+ ในร่างกายโดยตรงนั้นมีมากมาย อาทิ ช่วยซ่อมแซมและปกป้องเซลล์ได้ถึงระดับ DNA ช่วยให้ความจำและระบบประสาทดีขึ้น ชะลอความชรา คืนความอ่อนเยาว์ กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้ดีขึ้น เผาผลาญพลังงานและไขมันดีขึ้น ลดอาการสมองล้ามีแรงทำงาน ช่วยทำให้การมองเห็นและการได้ยินดีขึ้น
โดยวิธีการนั้นจะเป็นการให้ NAD+ ขนาดสูงทางหลอดเลือดดำ เป็น IV Drip ทางน้ำเกลือ ทำให้ NAD+ เข้าสู่กระแสเลือดโดยตรง เพื่อไปซ่อมแซมเซลล์ต่างๆ ทั่วร่างกาย ได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ผ่านการดูดซึมจากทางเดินอาหาร ใช้เวลาประมาณ 40 นาที สามารถทำได้ทุก 1-2 สัปดาห์
ทั้งนี้เนื่องจากการให้ NAD+ เป็นการให้ผ่านทางหลอดเลือดดำจึงทำให้ตัวยาและสารสำคัญต่างๆที่อยู่ใน NAD+ ส่งถึงร่างกายโดยตรงและรวดเร็วอาจส่งผลให้เกิดผลเสียต่อร่างกายและอาจจะไม่ปลอดภัยหากตัวยาหรือสารประกอบต่างๆที่อยู่ใน NAD+ ไม่ได้คุณภาพตลอดจนถึงแพทย์ไม่มีความชำนาญการ ทาง Rassapoom Clinic คุณหมอหนุ่ม - อาจารย์นายแพทย์ รัสมิ์ภูมิ ได้ทำการคิดค้นสูตร NAD+ ที่มีความพิเศษ และเป็นสูตรเฉพาะของที่รัสมิ์ภูมิคลินิกเท่านั้น โดยเป็นสูตรเฉพาะที่ผ่านการคิดค้น และทดลองแล้วว่าปลอดภัย และทำให้ได้ประโยชน์จากการให้ NAD+ อย่างสูงที่สุด
โปรแกรม Cell Therapy "เซลล์ต้นกำเนิด" วิวัฒนาการของศาสตร์ความงาม และการฟื้นฟูสุขภาพลึกถึงระดับเซลล์ หรือเรียกกันง่ายๆ ว่าใช้ เซลล์บำบัด ซึ่งวิธีนี้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางทางด้านความงาม เช่น การฟื้นฟูเซลล์ผิวหน้าโดยวิธีการฉีดเซลล์ต้นกำเนิดไปที่ผิวหน้า โดยเซลล์ต้นกำเนิดจะเข้าไปแทนที่เซลล์เก่าที่เสื่อมสภาพและถูกทำลายไป และหลั่งสารต่างๆ ที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตและการแบ่งตัวของเซลล์ในชั้นผิวหนังต่างๆ รวมไปถึงการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยให้ผิวหน้าตึงกระชับ ดูอ่อนวัย สดใส ลดเลือนริ้วรอย
โดยเซลล์ต้นกำเนิดที่นำมาใช้นั้น มีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเซลล์ของเราเอง หรือเซลล์ของสัตว์ที่ได้มาจากตัวอ่อนที่ปฏิสนธิแล้ว ได้มาจากไขกระดูก ซึ่งปัจจุบันได้มีการนำเซลล์ต้นกำเนิดมาใช้ในการรักษาโรคหลายอย่าง เช่น การใช้เซลล์เพื่อฟื้นฟูเซลล์เข่าที่เสื่อม ให้สามารถกลับมาใช้งานได้ดีเหมือนเดิม ซึ่งสามารถทำได้โดยฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำเพื่อฟื้นฟูสุขภาพทั้งร่างกาย ต้านการอักเสบต่างๆ ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคและซ่อมแซมเซลล์ที่เสื่อมสภาพ ทำให้สุขภาพแข็งแรงมากขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น
ผู้ที่สนใจในเรื่องของเวชศาสตร์แห่งการชะลอวัย อยากลดอายุ กระชากความแก่และฟื้นฟูผิวให้ดูอ่อนกว่าวัย สามารถปรึกษาคุณหมอหนุ่ม - อาจารย์นายแพทย์ รัสมิ์ภูมิ หรือเข้ารับบริการที่รัสมิ์ภูมิคลินิกได้ ทั้ง 4 สาขา พระราม 2 , เลียบด่วนรามอินทรา รัตนาธิเบศร์ และสุขุมวิท 49 หรือ ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.rassapoomclinic.com/ , https://www.facebook.com/DrRassapoomFanpage
ที่มา: Notable bangkok
