นายวัลล์ชัย เวชชีวะดำรงค์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ INET ผู้ให้บริการ Local Cloud และ Digital Platform เปิดเผยว่า ในปี 2569 บริษัทฯ มุ่งมั่นขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ Sovereign Cloud ภายในประเทศ เพื่อเสริมสร้างอธิปไตยด้านข้อมูล (Data Sovereignty) ให้แก่ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยวางเป้าหมายหลักในการเป็น Trusted Sovereign Service Provider ที่พร้อมรองรับมาตรฐานความมั่นคงปลอดภัยระดับสูงสุด เพื่อรองรับกับกระแสความกังวลในระดับสากลต่อกฎหมาย US Cloud Act ซึ่งอนุญาตให้มีการเข้าถึงข้อมูลข้ามพรมแดน ได้กลายเป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้หลายประเทศหันมาให้ความสำคัญกับการจัดเก็บและควบคุมข้อมูลภายในพรมแดนของตนเอง
สำหรับประเทศไทย INET ได้บ่มเพาะและเตรียมความพร้อมด้าน Sovereign Cloud มายาวนานกว่า 10 ปี เพื่อสร้างอำนาจต่อรองทางเทคโนโลยี และลดการพึ่งพาผู้ให้บริการจากต่างประเทศ อีกทั้ง INET ในฐานะผู้นำโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ยังคงเดินหน้าลงทุนในด้าน Cloud และ Data Center ภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยฝีมือบุคลากรและนักพัฒนาชาวไทย ภายใต้การกำกับดูแลตามกฎหมายไทยอย่างเคร่งครัด สิ่งนี้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าข้อมูลสำคัญจะได้รับการปกป้องโดยไม่ถูกเคลื่อนย้ายออกนอกประเทศ พร้อมระบบการควบคุมการเข้าถึงที่ปลอดภัย โปร่งใส และตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอน
ทั้งนี้ด้วยศักยภาพที่แข็งแกร่งของ INET ส่งผลให้ได้รับความไว้วางใจจากสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ (สพร.) ในการเป็นผู้ให้บริการและพัฒนาระบบสื่อสารแบบรวมศูนย์ (Unified Communication) เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการสื่อสารในหน่วยงานภาครัฐ ให้สามารถทำงานได้อย่างไร้รอยต่อ มีความมั่นคงความปลอดภัยสูงและรองรับการทำงานยุคดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศและสนับสนุนการจัดเก็บข้อมูลภาครัฐภายในประเทศ ภายใต้กฎหมายไทยอย่างเคร่งครัด พร้อมบริหารข้อมูลสำคัญได้อย่างปลอดภัยบนผืนแผ่นดินไทย ตอกย้ำบทบาทของ INET ในการสนับสนุนการ Digital Government ของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
นอกจากนี้ ท่ามกลางความท้าทายรอบด้าน INET ยังคงรักษาเสถียรภาพและสร้างการเติบโตได้ดี โดยอัปเดตภาพรวมธุรกิจ ผ่าน Business Update 2568 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมียอดจำนวน VMI สะสมคาดการณ์ปิดตัวเลข อยู่ที่ 105,000 VMI มีฐานลูกค้ากว่า 6,000 ราย ครอบคลุมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สะท้อนถึงการเติบโตและความต้องการใช้งานในตลาด Cloud ขององค์กรไทยที่พุ่งสูงขึ้น และตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของ Local Cloud ที่สามารถตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัยและการบริหารจัดการข้อมูลได้ดีกว่าในสภาวะที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและผลกระทบจากภูมิรัฐศาสตร์ก็ตาม ทำให้ INET สามารถขยายฐานลูกค้าได้อย่างแข็งแกร่ง
นายวัลล์ชัย กล่าวเพิ่มเติม สำหรับทิศทางธุรกิจในปี 2569 บริษัทฯ มุ่งเน้นการให้บริการใน 3 กลุ่มยุทธศาสตร์หลัก ได้แก่ กลุ่มสาธารณสุข (Health), กลุ่มธุรกิจองค์กร (B2B) และ หน่วยงานภาครัฐ (Government) โดยเน้นการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลภายในประเทศภายใต้กฎหมายไทยอย่างเคร่งครัด พร้อมวางกลยุทธ์เชิงรุกเพื่อรองรับกับความผันผวนของสภาวะเศรษฐกิจในอนาคต หากภาพรวมตลาดเติบโตทิศทางที่เอื้ออำนวย INET คาดการณ์ว่ายอด VMI จะสามารถเติบโตสู่เป้าหมายที่ระดับ 150,000 VMI อย่างไรก็ตาม INET ยังคงมั่นใจว่าสามารถบริหารจัดการและรักษาการเติบโตของธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง จากความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานที่ลงทุนและพัฒนาไว้ภายในประเทศ ประกอบกับความเป็นองค์กรไทยที่มีความเข้าใจบริบทตลาด กฎระเบียบ และความต้องการของลูกค้าในประเทศ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว